นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ที่ผ่านมา คณะกรรมการ ปตท. มีมติอนุมัติสนับสนุนเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นกรณีพิเศษเพื่อช่วยเหลือประชาชนเป็นการเร่งด่วนจากสถานการณ์วิกฤติ เป็นจำนวนเงินเดือนละ 1,000 ล้านบาท ระยะเวลา 3 เดือน รวมทั้งสิ้น 3,000 ล้านบาท สนับสนุนภาครัฐในการแบ่งเบาภาระค่าพลังงานของประชาชน รวมทั้งเพื่อรักษาเสถียรภาพด้านพลังงานของประเทศ ทั้งนี้ จากสถานการณ์วิกฤติด้านพลังงานตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา ปตทคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. ได้ช่วยแบ่งเบาภาระต้นทุนค่าครองชีพด้านพลังงานให้แก่ประชาชนไปแล้วกว่า 14,800 ล้านบาท
ปตท. ในฐานะบริษัทมหาชนและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจตระหนักถึงผลกระทบจากวิกฤติการณ์ด้านพลังงาน ส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจและภาคประชาชนของประเทศในวงกว้าง จึงได้ช่วยเหลือประชาชนทุกภาคส่วนโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง อาทิ ให้ส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม (LPG) แก่ผู้มีรายได้น้อยที่เป็นร้านค้าหาบเร่ แผงลอยอาหาร ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การตรึงราคาขายปลีกช่วยเหลือกลุ่มผู้ใช้รถ NGV ส่วนบุคคล และผู้ประกอบอาชีพขับขี่รถแท็กซี่ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตรึงราคาขายปลีกน้ำมันหน้าสถานีบริการ จัดหาน้ำมันดิบเพื่อเพิ่มปริมาณสำรอง ตลอดจนช่วยบรรเทาภาระต้นทุนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในการผลิตไฟฟ้า นอกจากนี้ ปตท. ยังได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายทางการแพทย์เพื่อช่วยเหลือสังคมจากวิกฤติโควิดในโครงการลมหายใจเดียวกันกว่า 1,046 ล้านบาท คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
“ปตท. พร้อมเป็นกำลังสำคัญและเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการทำงานของทุกภาคส่วน รวมถึงการดูแลสังคมและชุมชน เพื่อให้คนไทยฝ่าวิกฤตินี้ไปด้วยกันได้โดยเร็ว” นายอรรถพล กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเข้ามาช่วยเหลือกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของปตท.ครั้งนี้ เนื่องจากล่าสุด ณ วันที่ 10 ก.ค. ประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงติดลบ 110,917 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 72,534 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ติดลบ 38,383 ล้านบาท ซึ่งกองทุนอุดหนุนราคาดีเซลอยู่ที่ 3.06 บาทต่อลิตร จากราคาจริงควรอยู่ที่ 38 บาทต่อลิตร และยังไม่สามารถหาเงินกู้ และแบ่งปันกำไรจากโรงกลั่นทั้ง 6 แห่ง เข้ามาเสริมสภาพคล่องกองทุนฯ ได้