ต้องบอกว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ดิสนีย์ (Disney) บริษัทสื่อและความบันเทิงยักษ์ใหญ่ ประสบความสำเร็จไม่น้อยกับการสร้างสรรค์ผลงานที่เป็นไลฟ์แอ็กชัน (Live Action) หรือการนำผลงานเดิมที่เป็นภาพยนตร์การ์ตูนมาทำใหม่เป็นฉบับคนแสดงคำพูดจาก สล็อต888
ผลงานฉบับคนแสดงที่ประสบความสำเร็จของดิสนีย์มีทั้ง The Lion King (2019), Beauty and the Beast (2017) หรือ Aladdin (2019) แต่ก็ต้องยอมรับว่ากระแสเริ่มมาแผ่วสำหรับ Mulan (2020) และ The Little Mermaid (2023)
ยาน “SLIM” ของญี่ปุ่นคืนชีพรอบสอง! หลังไม่โดนแสงอาทิตย์นาน 2 สัปดาห์
อิสราเอลพบอุโมงค์ฮามาสเพิ่มอีกแห่งหนึ่ง ยาวถึง 10 กิโลเมตร
“หมาป่าเชอร์โนบิล” อยู่รอดท่ามกลางกัมมันตรังสี และพัฒนายีนต้านมะเร็ง!
ผู้ที่อยู่เบื้องหลังผลงานไลฟ์แอ็กชันเหล่านี้มาโดยตลอดคือ ฌอน เบลีย์ ประธานฝ่ายผลิตภาพยนตร์ของดิสนีย์ ซึ่งโดยรวมแล้ว ที่ผ่านมาเขาเคยสร้างรายได้ให้กับดิสนีย์มากถึง 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (2.5 แสนล้านบาท)
แต่ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ก.พ. มีรายงานว่า เขาต้องลงจากตำแหน่งประธานฝ่ายผลิตภาพยนตร์ที่นั่งมานานเกือบ 15 ปีนี้แล้ว
นี่เป็นความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญของดิสนีย์ที่ยังไม่ชัดเจนว่า จะนำพาดิสนีย์ไปสู่ความรุ่งโรจน์กว่าเดิม หรือพลิกชะตาทำให้สถานการณ์แย่ลง
มีรายงานว่า เขาจะถูกแทนที่โดย เดวิด กรีนบาม หัวหน้าบริษัท Searchlight Pictures บริษัทย่อยของดิสนีย์ที่ผลิตภาพยนตร์มาหลายเรื่อง อาทิ The French Dispatch (2021), The Banshees of Inisherin (2022), The Menu (2022) และ Poor Things (2023)
ดิสนีย์กล่าวว่า เบลีย์จะยังคงทำงานในกับดิสนีย์ในฐานะผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์นิยายวิทยาศาสตร์เรื่อง ทรอน: แอรีส (Tron: Ares) และโปรเจ็กต์อื่น ๆ ต่อไป
อลัน เบิร์กแมน ประธานร่วมของดิสนีย์เอนเตอร์เมนเมนต์ กล่าวว่า “ฌอนเป็นสมาชิกคนสำคัญอย่างไม่น่าเชื่อในทีมสร้างสรรค์ของสตูดิโอมานานกว่าทศวรรษ … เขาและทีมของเขาได้นำเรื่องราวและช่วงเวลาอันเป็นเอกลักษณ์มาสู่หน้าจอ ซึ่งสร้างความพึงพอใจให้กับแฟน ๆ ทั่วโลกและจะยืนหยัดอยู่เหนือกาลเวลา”
ความเปลี่ยนแปลงนี้คาดว่าเกิดจากการที่ดิสนีย์ได้รับแรงกดดันจากนักลงทุนอย่าง เนลสัน เพลต์ซ ซึ่งมหาเศรษฐีชาวอเมริกันรายนี้เรียกร้องให้มีการปรับเปลี่ยนธุรกิจ โดยต้องการให้ดิสนีย์เพิ่มผลกำไรจากธุรกิจสตรีมมิ่ง รวมถึงปรับปรุงประสิทธิภาพในบ็อกซ์ออฟฟิศของภาพยนตร์ด้วย (เนื่องจากภาพยนตร์ก่อนหน้านี้ เช่น Jungle Cruise และ The Little Mermaid ดูจะไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร)
ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา บ็อบ ไอเกอร์ ซีอีโอดิสนีย์ ได้ประกาศความเคลื่อนไหวหลายอย่างซึ่งเขาหวังว่าจะนำ “การเติบโตที่สำคัญ” มาสู่บริษัท รวมถึงการสตรีมคอนเสิร์ต Eras Tour ของ เทย์เลอร์ สวิฟต์ เวอร์ชันพิเศษบน Disney+ หรือแผนการลงทุน 1.5 พันล้านดอลลาร์ (ราว 5.38 หมื่นล้านบาท) ใน Epic Games ผู้ผลิตวิดีโอเกม Fortnite ที่ได้รับความนิยม
ดิสนีย์ยังได้เปิดเผยการร่วมทุนกับคู่แข่งอย่าง Fox และ Warner Bros. Discovery เพื่อเปิดตัวแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งกีฬาใหม่ โดยสื่อยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ทั้ง 3 แห่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์กีฬาที่หลากหลาย ทั้ง FIFA World Cup, Formula 1, National Football League, National Basketball Association และ Major League Baseball
เรียบเรียงจาก BBC
เดชา เผย ทนายคู่กรณีไม่ยอมถอนคำร้องครอบครองปรปักษ์ แม้ผู้ตายกราบเท้าก็ไม่ยอมถอนให้
เกิดอะไรขึ้น กับ บิตคอยน์ ราคาร้อนแรงตลอดวัน ทะยาน 2 ล้านบาท!
นศ.-ศิษย์เก่า "อุเทนถวาย" รวมตัวแสดงพลัง 5 จุด ค้านย้ายสถาบัน!